โครงการที่สมเด็จพระราชินีซิลเวีย แห่งสวีเดนทรงสนับสนุน

เพิ่มต้นทุนชีวิตแม่วัยใส

โครงการเพิ่มต้นทุนให้แม่วัยใส เป็นโครงการที่เอื้อให้วัยรุ่นที่เป็นแม่วัยใส ได้มีโอกาสที่จะเรียนหนังสือต่อ และเอื้อให้สามารถที่จะเลี้ยงลูกเอง ไปพร้อมกัน โดยให้การสนับสนุนรอบด้านอย่างเต็มที่ เป็นโครงการที่ท้าทาย ในกระบวนการ และต้องอาศัยความผูกพันมุ่งมั่น ในการที่จะให้การสนับสนุนที่ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่ผลลัพธ์ต่อสังคมนั้น เชื่อได้ว่า มากมาย เพราะเป็นการช่วยสร้าง 2 ชีวิตให้เติบโตอย่างเต็มตามศักยภาพ

สถานการณ์แม่วัยรุ่น เป็นเรื่องที่สังคมเป็นห่วง สำหรับประเทศไทยนั้น มีสถิติแม่วัยรุ่นสูงที่สุดในเอเซีย หลายกรณี เป็นปัญหาสืบเนื่องมาจาก การท้องไม่พร้อม ซึ่งเป็นปัญหาที่มีหลายมิติที่ต้องมองให้รอบ 

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีกรณีการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมโดยเฉพาะในเด็กวัยรุ่นสังคมส่วนใหญ่ก็จะรุดหน้าตำหนิไปก่อน ด้วยมองว่าเป็นเรื่องของ ความไม่ถูกต้องเป็นการชิงสุกก่อนห่ามและเกือบทุกกรณีก็จะมาลงเป็นความผิดของผู้หญิงไม่เว้นแม้กระทั่งกรณีข่มขืนก็ยังถูกมองว่า เป็นเพราะ ผู้หญิงเอง 

เมื่อตัดสินใจทำแท้ง และมีคนรู้เข้า ก็ถูกประนาม และหากไม่มีโอกาสยุติการตั้งครรภ์ รอจนคลอด ทางข้างหน้าที่จะต้องเลี้ยงดูลูกที่เกิดมาดูมืดมิด ความกดดันที่รุมเร้าทำให้ตัดสินใจทิ้งลูกในลักษณะต่างๆ เมื่อเป็นข่าวขึ้น ก็ถูกหาว่าเป็นแม่ใจยักษ์ 

สมการการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผนจะมีเฉพาะข้างของผู้หญิงที่ต้องตั้งท้อง ที่ต้องแบกภาระลูกที่จะเกิดมาในขณะที่ผู้ที่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นอีกข้างหนึ่งของสมการนั้นลอยตัว ปฏิเสธความรับผิดชอบกันได้อย่างง่ายดาย ไม่ถูกตั้งคำถาม ไม่ถูกประณามจากสังคม

ธรรมชาติที่กำหนดให้ผู้หญิงเป็นผู้ตั้งครรภ์ ไม่น่าจะเป็นข้อที่ทำให้ความรับผิดชอบกับชีวิตใหม่ที่จะเกิดขึ้นตกอยู่ที่ผู้หญิงฝ่ายเดียว แต่นั่นคือปรากฏการณ์ที่แท้จริง

จากการสัมภาษณ์ผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมที่มาขอความช่วยเหลือจากบ้านพักฉุกเฉิน เกือบทุกรายต้องการยุติการตั้งครรภ์ มิใช่ต้องการทำลาย แต่มองไม่เห็นทางเลือกอื่นใดในขณะนั้น และเมื่อกฏหมายมิได้เปิดช่องให้ยุติการตั้งครรภ์ได้ ยกเว้นกรณีถูกข่มขืนหรือการตั้งครรภ์เป็นอันตรายต่อสุขภาพของแม่ การยุติการตั้งครรภ์ก็เป็นเรื่องที่กฏหมายลงโทษ ปํญหาการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยและอันตรายที่อาจเป็นผลพวงต่อสุขภาพของผู้หญิง ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากรักษาครรภ์ไว้จนคลอด ก็ประสบปัญหา การลงโทษโดยสังคม โทษทัณฑ์ในอีกลักษณะหนึ่ง

บ้านพักฉุกเฉิน เป็นทางเลือกหนึ่งของผู้หญิงที่ประสบปัญหาเหล่านั้น ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงที่ประสบปัญหาท้องไม่พร้อม บ้านพักฉุกเฉินให้บริการและช่วยเหลือ กว่า ประมาณ 1,200 คน ที่น่าเป็นกังวล คือ อัตราส่วนของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีนั้นสูงขึ้น สิ่งที่ตามมา คือ เมื่ออายุน้อย ทางข้างหน้าดูเหมือนจะเป็นทางตัน ผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมที่มารับบริการจากบ้านพักฉุกเฉินปีละประมาณ 130 คนนั้น เท่าที่ผ่านมามีประมาณร้อยละ 25 - 30 ที่ต้องการจะส่งลูกเข้าสู่สถานสงเคราะห์ เนื่องจากไม่สามารถที่จะดูแลได้ ด้วยความไม่พร้อมในด้านต่างๆ การที่เด็กถูกส่งเข้าสถานสงเคราะห์ถึง 30 รายจาก 100 รายนั้น นับว่าน่ากังวลมาก บ้านพักฉุกเฉินของสมาคมฯ จึงได้เริ่มโครงการที่จะเอื้อให้แม่วัยใส ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มองเห็นโอกาสที่จะเลี้ยงลูกเอง และสามารถที่จะเพิ่มต้นทุนชีวิตให้แกตนเองไปพร้อมกัน

โครงการเพิ่มต้นทุนชีวิตแม่วัยใส จึงเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เพื่อลดจำนวนเด็ก ที่ถูกส่งสถานสงเคราะห์ และ เพื่อให้แม่วัยใสได้มีโอกาสเรียนหนังสือต่อ 

สิ่งที่บ้านพักฉุกเฉินดำเนินการ คือ ให้ข้อมูลความช่วยเหลือเพื่อให้แม่วัยใสตัดสินใจได้ ความช่วยเหลือที่ให้นั้น มีเงื่อนไขในเรื่องการศึกษา และการดูแลลูกด้วยตัวเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้น สมาคมฯ รับผิดชอบ การดำเนินการ จึงเริ่มต้นตั้งแต่ยังท้อง เริ่มจากการสร้างสายสัมพันธ์กับลูกในระหว่างท้อง การให้ความรู้ ดูแลตนเองก่อนคลอด และหลังคลอด รวมทั้ง การให้ความรู้ต่างๆในแง่ทักษะชีวิต ความรู้ด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งได้สอดแทรกให้ตลอดเวลาที่พักที่บ้านพักฉุกเฉิน รวมทั้งเพิ่มทักษะอาชีพที่แต่ละคนสนใจ

ในกรณีที่แม่วัยใสตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ นั่นหมายถึงว่า จะต้องดำเนินการในเรื่องโรงเรียน ซึ่งอาจเป็นการเรียนในระบบ หรือ การเรียนนอกระบบ – การศึกษาผู้ใหญ่ ซึ่งแต่ละคนก็เลือกตามที่ต้องการ ในขณะที่เรียนหนังสือนั้น สำหรับกรณีที่พักที่บ้านพักฉุกเฉินสมาคมฯ ก็ได้ฝากเงินในธนาคารให้เดือนละ 1ม500 บาท ซึ่งแม่วัยใสไม่มีสิทธิถอนเงิน จนกระทั่งเรียนสำเร็จ และพร้อมที่จะก้าวออกจากบ้านพักพร้อมลูก

ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา มีแม่วัยใสที่เลือกกลับไปอยู่ที่บ้าน ปัจจุบัน แม่วัยใสกรณีนี้เรียนชั้นมัธยม 5 ลูกอยู่อนุบาล 3 ซึ่งสมาคมฯ ก็ให้การดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก และการเรียนของแม่และลูกทั้งหมด อีกราย เลือกที่จะเรียนในระบบเช่นกัน แต่ยังพักอาศัยที่บ้านพักฉุกเฉิน ขณะนี้ กำลังเรียนชั้น ม.3 ลูกอายุ 1 ปีเศษ ซึ่งการดำเนินชีวิต คือ เลี้ยงลูกเอง พร้อมๆกับที่เรียนหนังสือ โดยในระหว่างไปโรงเรียนนั้น เนอสเซอรีของสมาคมฯ ช่วยดูแลลูกให้ สำหรับกรณีอื่นๆที่อยู่ในโครงการนี้ อีกประมาณ 12 ราย แม่วัยใส เลือกเรียน กศน. และเลี้ยงลูกเองเช่นเดียวกัน 

ถึงปัจจุบันมี แม่วัยใสเรียนสำเร็จการศึกษามัธยมปลาย 5 คน และได้ออกไปตั้งต้นชีวิตใหม่ที่มีต้นทุนสูงขึ้น 

เราเชื่อว่า 3 ปี ของการเลี้ยงลูกเอง สร้างความผูกพัน และสะกัดการส่งลูกเข้าสู่สถานสงเคราะห์ได้อย่างดี ต้นทุนความรู้ที่เพิ่มขึ้น ไปในขณะเดียวกัน พร้อมกับเงินสนับสนุนแม้จะไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอที่ให้ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้อย่างมีความหวัง เป็นชีวิตที่มีความรักและผูกพันกับลูก เป็นฐานที่นำทาง การก้าวเดินต่อไป

บ้านพักฉุกเฉิน โทร 02 929 2301 ต่อ 302 หรือ306