กลับไปหน้า Q&A

สารพันปัญหากับ ถุงยางอนามัย

image
เรื่อง :
alexlivfc@hotmail.com
อ้างอิง และขอบคุณข้อมูลจาก:
http://www.metro-society.com , http://health.kapook.com
 
http://talkaboutsex.thaihealth.or.th ,http://www.เสื่อมสมรรถภาพ.com

Q: ถุงยางอนามัยป้องกันการตั้งครรภ์และเชื้อ เอช ไอ วีได้อย่างไร?
Q: ผมใช้ถุงยางซ้อนกันสองชั้นจะยิ่งปลอดภัยกว่าไหมครับ?
Q: ที่บอกว่าให้ใส่ถุงยางอนามัยตอนที่อวัยวะเพศแข็งตัวนี่ หมายถึงว่า ให้ใส่เมื่อตอนที่กำลังจะถึงจุดสุดยอดหรือเปล่าครับ?
Q: ผมจะเลือกซื้อถุงยางอย่างไรดีครับ แบบไหนถึงจะเหมาะกับขนาดน้องชายของผม ถ้าเล็กไปก็เสี่ยงต่อถุงยางแตก ถ้างั้นเลือกไซด์ใหญ่ๆไว้ก่อนดีกว่าไหมครับ?
Q: แฟนบอกว่า ไม่ชอบใช้ถุงยางค่ะเพราะมันไม่ธรรมชาติและเขายังถามอีกว่าไม่ไว้ใจเขาเหรอ... ทำไงดี?
Q: ผมมักซื้อถุงยางมาเก็บไว้เยอะๆครับ ไม่กล้าไปซื้อหลายครั้ง อายคนขาย ผมอยากรู้วิธีการเก็บรักษาถุงยางอนามัยให้อยู่กับผมนานๆ ต้องทำอย่างไรครับ?
Q: ถ้าใช้สารหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้ถุงยางแตกได้ แล้วผมจะรู้ได้ยังไง ว่าควรใช้อะไรดี?
Q: หนูกับแฟนก็ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเลยนะคะ แล้วทำไมหนูถึงท้อง?



Q: ถุงยางอนามัยป้องกันการตั้งครรภ์และเชื้อ เอช ไอ วีได้อย่างไร?

A:ถุงยางอนามัยใช้สวมใส่อวัยวะเพศชายเมื่อแข็งตัวเต็มที่ ทำหน้าที่เป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้ตัวเชื้ออสุจิ เข้าสู่ช่องคลอด ที่ปลายถุงยางอนามัยจะมีกระเปาะเล็กๆ สำหรับรองรับน้ำอสุจิ ส่วนเชื้อเอชไอวีนั้นมีขนาดเล็กกว่าตัวอสุจิถึง 30 เท่า ซึ่งได้มีการค้นคว้าและทดลองพบว่า แม้ผนังถุงยางอนามัยจะถูกขยายถึง 2,000 เท่าก็ยังไม่เห็นการรั่วซึม เมื่อขยายผนังถุงยางอนามัยเป็น 30,000 เท่า ซึ่งเป็นกำลังขยายที่สามารถมองเห็นตัวเชื้อเอชไอวีได้นั้นพบว่า ผนังถุงยางอนามัยมีลักษณะเป็นหลุมเล็กๆ แต่ก็ไม่เห็นรอยรั่วซึม และที่สำคัญเชื้อเอชไอวีนั้นต้องอาศัยเซลล์เม็ดเลือดขาว น้ำในช่องคลอด เป็นที่อยู่อาศัยซึ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวมีขนาดใหญ่กว่าผนังถุงยาง ถุงยางอนามัยก็จะช่วยกักเก็บน้ำอสุจิและน้ำในช่องคลอด ป้องกันไม่ให้ผ่านเข้าไปในอวัยวะเพศแต่ละฝ่ายได้ ดังนั้นถุงยางอนามัยจึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะ เอช ไอ วี/เอดส์ได้ดีที่สุด

Back to Top

Q: ผมใช้ถุงยางซ้อนกันสองชั้นจะยิ่งปลอดภัยกว่าไหมครับ?

A: การสวมถุงยางอนามัยนั้นควรสวมเพียงชั้นเดียวก็เพียงพอแล้วนะคะ เพราะอะไรที่มากเกินไปมักให้โทษ เนื่องจากเมื่อสวมถุงยางสองชั้นจะทำให้ถุงยางอนามัยมันเสียดสีกันเอง และเกิดภาวะ ถุงยางแตกได้นะคะ

Back to Top

Q: ที่บอกว่าให้ใส่ถุงยางอนามัยตอนที่อวัยวะเพศแข็งตัวนี่ หมายถึงว่า ให้ใส่เมื่อตอนที่กำลังจะถึงจุดสุดยอดหรือเปล่าครับ?

A: เป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงเชียวค่ะ เพราะ การแข็งตัวของอวัยวะเพศชายกับการที่จะถึงจุดสุดยอดนั้น เป็นคนละเรื่องเดียวกัน เนื่องจากการเข็งตัวของอวัยวะเพศชายเกิดได้บ่อยเมื่อมีสิ่งเร้า และเมื่อมีกิจกรรมทางเพศก่อนที่จะสอดใส่อวัยวะเพศชายก็จะแข็งตัวแล้ว (ถ้ามันไม่ยอมแข็งตัวก็คง xxx ไม่ได้...อันนี้ต้องไปพบแพทย์) ส่วนการถึงจุดสุดยอดหรือที่เรียกว่าออกัสซั่ม นั้นเป็นภาวะสำเร็จเสร็จกิจกรรม และผู้ชายกำลังจะหลั่งน้ำอสุจิแล้วนะคะ (ถ้าใส่ถุงตอนนี้ไม่ทันแล้วจ้า) ดังนั้นคุณผู้ชายควรสวมถุงยางอนามัยในตอนที่อวัยวะเพศแข็งตัว และก่อนมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่ หากคุณผู้ชายเพิ่งจะมาใส่ถุงยางเอาเมื่อตอนใกล้จะถึงจุดสุดยอดก็คงไม่ต่างอะไรจากการใช้วิธี หลั่งข้างนอกหรอกค่ะ... ถ้าอย่างนั้นเอาถุงยางวางไว้ข้างๆขณะมีเพศสัมพันธ์ก็มีค่าใกล้เคียงกัน... คือไม่ได้ช่วยอะไรเลย

Back to Top

Q: ผมจะเลือกซื้อถุงยางอย่างไรดีครับ แบบไหนถึงจะเหมาะกับขนาดน้องชายของผม ถ้าเล็กไปก็เสี่ยงต่อถุงยางแตก ถ้างั้นเลือกไซด์ใหญ่ๆไว้ก่อนดีกว่าไหมครับ?

A:คงไม่ดีแน่นอนค่ะ อย่างที่บอกว่า น้อยหรือมากเกินไปมักเกิดปัญหา เพราะถ้าเราเลือกขนาดที่เล็กเกินไปถุงยางก็อาจจะแตกหรือฉีกขาดได้ ส่วนในกรณีที่เลือกแบบใหญ่เกินไปก็ทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ และติดโรคสูงเนื่องจากการที่ใส่ถุงยางอนามัยที่มีขนาดหลวมเกินไป จะทำให้เกิดช่องว่างน้ำหล่อลื่น และน้ำกำหนัดสามารถลอดผ่านพื้นที่ว่างของอวัยวะเพศชาย และเปลือกของถุงยางจนปล่อยเชื้ออสุจิ หรือเชื้อโรคเข้าสู่อีกฝ่ายได้ในทั้งขาเข้าและขาออก นอกจากนั้นยังเสี่ยงต่อการที่ถุงยางอนามัยจะหลุดโดยที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวอีกด้วยอันนี้ยิ่งเสี่ยงเข้าไปใหญ่เลยนะคะ

การวัดขนาดน้องชาย - หากสังเกตที่กล่องของถุงยางจะมีตัวเขียนไว้ว่า 44 มม. 46 มม. 50 มม. 52 มม. ซึ่งหมายถึง เส้นรอบวงของตัวถุงยาง โดยเฉลี่ยเพศชายมีอวัยวะเพศยาวที่ 4.4 ถึง 6.5 นิ้ว ในขนาดที่การแข็งตัวเต็มที่ การวัดขนาดที่ควรทำในขนาดที่น้องชายของคุณผู้ชายแข็งตัวเต็มที่ อาจจะใช้เชือกขนาดเล็ก หรือสายวัดพันรอบเหมือนกับวัดเอวตอนไปซื้อกางเกงก็ได้โดยวัดจากเส้นรอบวง (ไม่เน้นเรื่องความยาว เพราะถุงยางอนามัยมักจะมีขนาดยาวกว่าอวัยวะเพศอยู่แล้ว) ซึ่งในการศึกษาเรื่องขนาดของน้องชายเพื่อที่จะได้ผลิตถุงยางอนามัยให้เหมาะกับผู้ชายแต่ละเชื้อชาตินั้นได้มีการศึกษากันมาแล้วว่า
  • ชายฝรั่งเศส เฉลี่ยขนาดอยู่ที่ 6.2 นิ้ว
  • ชายอิตาลี เฉลี่ยขนาดอยู่ที่ 5.9 นิ้ว
  • ชายชาวเม็กซิโก 5.8 นิ้ว
  • ส่วนประเทศไทย ใหญ่กว่าคนจีนนิดหนึ่ง อยู่ที่ 4.1 นิ้ว ดังนั้น ว่ากันว่า ขนาดถุงยางอนามัยที่เหมาะสมที่สุดกับคนไทยคือ ขนาด 49 นั่นเอง
  • จีน 3.8 นิ้ว
  • เกาหลีใต้ 3.7 นิ้ว

Back to Top

Q: แฟนบอกว่า ไม่ชอบใช้ถุงยางค่ะเพราะมันไม่ธรรมชาติและเขายังถามอีกว่าไม่ไว้ใจเขาเหรอ... ทำไงดี?

A: คงไม่มีใครไว้ใจใครได้เพราะคงไม่มีแฟนคนไหนที่เล่าให้คู่ตนเองฟังหมดทุกอย่างว่าผ่านอะไรมาบ้าง แม้กระทั่งบางคนติดเชื้อ เอช ไอ วี ยังไม่บอกกันเลย... และคงไม่มีสามีคนไหนที่ยอมรับกับภรรยาอย่างหน้าชื่นตาบานว่าผมเพิ่งไปลงอ่างหรือเที่ยวหญิงขายบริการมา... ดังนั้นถ้าแฟนของน้องไม่ยอมใช้ถุงยางอนามัยโดยอ้างเหตุผลข้างต้น แม้ว่าเราจะพยายามอธิบายข้อดีของถุงยางอนามัยแล้วก็ตาม ก็ยิ่งเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ความสุขส่วนตัวและไม่ได้รักเราจริง... ผู้หญิงควรมีสิทธิ์ มีอำนาจในการต่อรอง ตัดสินใจคุมกำเนิดและป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ให้กับตัวเองไม่ใช่ฝากชีวิตไว้กับเพศชาย เพราะเมื่อเกิดท้องไม่พร้อม หรือเป็นโรคร้ายขึ้นมาคุณคิดว่าผู้ชายจะรับผิดชอบได้มากแค่ไหน... คุณผู้หญิงลองคิดดูแค่เริ่มต้นก็ปฏิเสธความรับผิดชอบแล้วถ้าคุณยินยอมจนเกิดผลขึ้นคือฝ่ายหญิงท้อง หรือเป็นเอดส์เขาจะรับผิดชอบหรือ?... ดังนั้นท่องไว้ให้ขึ้นใจค่ะว่า "ไม่ใช้ถุงยางอนามัยก็อย่าหวังจะได้แอ้มจ้า = No Condom No sex"

Back to Top

Q: ผมมักซื้อถุงยางมาเก็บไว้เยอะๆครับ ไม่กล้าไปซื้อหลายครั้ง อายคนขาย ผมอยากรู้วิธีการเก็บรักษาถุงยางอนามัยให้อยู่กับผมนานๆ ต้องทำอย่างไรครับ?

A: ถุงยางอนามัยที่มีจำหน่ายในตลาดเมืองไทยผลิตดี ได้มาตรฐาน ISO มีอายุเก็บไว้ได้นานถึง 5 ปี นับแต่วันที่ผลิตถ้าเก็บไว้อย่างถูกต้องและเหมาะสม แต่ที่คุณภาพมันแย่ ก็มักเกิดขึ้นหลังจากผลิตออกมาแล้วทั้งสิ้น ถุงยางอนามัยควรเก็บรักษาไว้ในที่ไม่ถูกแสงแดดหรือที่มีอุณหภูมิสูง ไม่ให้โดนแสงอัลตราไวโอเลต (ตั้งโชว์ไว้หน้าร้าน) หรือโดนแสงนีออนนานๆ ความร้อน ความชื้น โอโซน ความเค็มของอากาศชายทะเล ล้วนเป็นเหตุให้ถุงยางอนามัยเสื่อมคุณภาพก่อนหมดอายุได้ทั้งสิ้น และที่สำคัญการพกถุงยางไว้ในกระเป๋าสตางค์ก็ทำให้ถุงยางเสื่อมสภาพเร็วมากประมาณหนึ่งเดือนก็เสื่อมประสิทธิภาพแล้วค่ะ

Back to Top

Q: ถ้าใช้สารหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้ถุงยางแตกได้ แล้วผมจะรู้ได้ยังไง ว่าควรใช้อะไรดี?

A: ในการผลิตถุงยางอนามัยในขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะบรรจุลงซองจะมีการเติมสารหล่อลื่นที่นิยมใช้ คือ ซิลิโคนออยล์ (silicone oil) ซึ่งสาร หล่อลื่นที่ใช้กับถุงยางอนามัยที่ทำจากยางธรรมชาติ จะต้องมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำหรือซิลิโคนเท่านั้น ห้ามใช้สารหล่อลื่นที่ทำจากน้ำมันหรือ ผลิตภัณฑ์ที่มาจากน้ำมันโดยเด็ดขาด รวมทั้งน้ำมันพืชด้วยเพราะ ยางกับน้ำมันไม่ถูกกัน จาการทดลองในห้องปฏิบัติการ พบว่า ความแข็งแรงของถุงยางอนามัยลดลงถึงร้อยละ 90 เมื่อถุงยางอนามัยสัมผัสกับสารหล่อลื่นที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน (เพียงแค่ 15 นาที) ทั้งนี้ที่กล่องบรรจุถุงยางอนามัย ฉลากกำกับสินค้าจะมีคำเตือนเกี่ยวกับการใช้ ข้อบ่งชี้เพื่อให้ทราบถึง สารหล่อลื่นเพิ่มเติมที่ควรใช้และไม่ควรใช้อยู่ด้วย

สารหล่อลื่นที่ละลายในน้ำที่สามารถใช้ได้มีดังนี้

  • K-Y jelly
  • Q-C jelly
  • Dura gel
  • Dura cream
  • Generic contraceptive gel
  • Senselle gel
  • polyethylene glycol

ส่วนสารหล่อลื่นที่ละลายในน้ำมัน ห้ามใช้กับถุงยางอนามัย โดยเด็ดขาด มีดังนี้

  • วาสลีนครีม (vaseline Cream)
  • ขี้ผึ้งทาปาก (Wax)
  • น้ำมันทาผิว (Baby oil)
  • วาสลีน ปิโตรเลียมเจลลี่ (Vaseline petroleum jelly)
  • โลชั่นทาผิว (Skin lotion)
  • วาสลีน อินเทนซีพแคร์โลชั่น (Vaseline intensive care lotion)
  • ครีมทามือ (Hand cream)
  • เนย (Butter/margarine)
  • น้ำมันพืช (Palm oil/vegetable oil)
  • น้ำมันข้าวโพด (Corn oil)

Back to Top

Q: หนูกับแฟนก็ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเลยนะคะ แล้วทำไมหนูถึงท้อง?

A: ข้อผิดพลาดที่เกิดจากตัวถุงยางอนามัยนั้นเป็นไปได้น้อยมาก เพราะโดยส่วนใหญ่ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจะมาจากตัวผู้ใช้เสียมากกว่า เนื่องจากผู้ชายเวลาสวมถุงยางอนามัยมักไม่ใช้สมองจะใช้แต่สัญชาตญาณ ที่พบข้อผิดพลาดบ่อยมีสาเหตุดังนี้

  • การสวมถุงยางอนามัยก่อนถึงจุดสุดยอด คือ เป็นการสอดใส่โดยปราศจากถุงยางก่อนแล้วพอใกล้ถึงจุดสุดยอดหรือใกล้หลั่งค่อยถอดออกมาใส่ถุงยาง
  • การสวมถุงยางก่อนสอดใส่ (ถูกต้อง) แต่เมื่อถึงจุดสุดยอดแล้วยังไม่ถอนอวัยวะเพศออกมาจากช่องคลอด อวัยวะเพศชายก็เริ่มอ่อนตัวลงจนมีช่องว่างให้สารคัดหลั่งออกมานอกถุงยาง หรือถุงยางอนามัยลื่นหลุดไปโดยไม่รู้ตัวเลยก็มี
  • การฉีกซองถุงยางแล้วซองไปเฉือนกับถุงยางจนเกิดรู หรือ รอยขาด
  • การดื่มเหล้า หรือการใช้สารเสพติด ทำให้เสื่อมสมรรถภาพในการใช้ถุงยางอนามัย นั่นก็คือใช้ถุงยางอนามัยผิดวิธี หรือบกพร่อง
  • ใช้สารหล่อลื่นไม่ถูกต้อง ทำให้ถุงยางแตกหรือลื่นหลุด
  • ไม่ใช้ถุงยางอนามัยใหม่แกะกล่อง หรือใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุ
  • แกะถุงยางอนามัยออกมาเล่นก่อนมีเพศสัมพันธ์
  • ใส่ถุงยางผิดด้านแล้วนำกลับมาใช้ใหม่
  • สำหรับผู้ที่ไม่ได้ขลิบปลายอวัยวะเพศ ต้องดึงหนังหุ้มรูดให้สุดเสียก่อน
  • ใช้ถุงยางอนามัยผิดขนาด – ใหญ่หรือเล็กเกินไป
  • ใช้ถุงยางอนามัยซ้อนหลายชั้น

เรื่องจริงของถุงยางอนามัย(Condom's fact)

    ถุงยางอนามัย คือเครื่องมือแพทย์ชนิดหนึ่ง ที่ต้องผ่านการตรวจสอบจาก อย. ดังนั้นเรื่องคุณภาพของตัวถุงยางมีความปลอดภัย 100 % แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องคือ
  • ใช้ก่อนมีเพศสัมพันธ์แบบสอดใส่
  • ใช้ถุงยางที่ยังไม่หมดอายุ
  • ใช้ให้เหมาะสมกับขนาดอวัยวะเพศของตัวเอง
  • ใช้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
  • ใช้เพียงชั้นเดียวเท่านั้น
  • มีใจรักและเชื่อมั่นว่าถุงยางช่วยให้มีความสุขและปลอดภัย

    ความสามารถในการป้องกันการตั้งครรภ์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถุงยางอนามัยสามารถกีดขวางไม่ให้ตัวเชื้ออสุจิและเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ เข้าสู่ช่องคลอดได้ดังต่อไปนี้
    1. ตัวเชื้ออสุจิ (spermatozoa) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.003 มิลลิเมตร หรือ 3000 นาโนเมตร
    2. เชื้อก่อโรคซิฟิลิส (Treponema pallidum) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 600 นาโนเมตร
    3. เชื้อก่อโรคหนองใน (Neisseria gonorrhoeae) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 800 นาโนเมตร
    4. เชื้อก่อโรคหนองในเทียม (C. trachomatis) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 200 นาโนเมตร
    5. เชื้อไวรัสเอดส์ (HIV) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 125 นาโนเมตร
    6. เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด บี (hepatitis B virus) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 นาโนเมตร

เรื่องไม่จริงของถุงยางอนามัย(Condom's not fact)

  • "ไม่ชอบ... เหมือนมีอะไรมาขวางทำให้ไม่มีความรู้สึก" ถุงยางอนามัยหนาอย่างมากไม่เกิน 0.06 มิลลิเมตร คุณผู้ชายแทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่เนื้อไม่ได้แนบเนื้อเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกไปเองว่ามีอะไรมาขวาง ซึ่งความจริงแล้วอาจจะดีกับหนุ่มที่ชอบไปถึงสวรรค์ก่อนเพื่อน ถุงยางอนามัยจะช่วยยืดเวลาความสุขให้คุณได้นานขึ้นอีกก็ได้
  • "ใช้ถุงยางแล้วมันขาดตอน ไม่ต่อเนื่อง" ถ้าคุณผู้ชายเป็นคนที่มีชั้นเชิงโลมเล้าจริงๆจะไม่มีคำว่า ขาดตอนเกิดขึ้น ถ้าไม่อยากทิ้งช่วงติดพันให้นานนัก ก็ให้เตรียมถุงยางอนามัยไว้ใกล้มือที่สุด จะใต้หมอน หรือโต๊ะหัวเตียงให้หยิบง่ายที่สุด และถ้าจะให้ฝ่ายหญิงช่วยใส่ให้ก็เป็นการเติมรักระหว่างกันให้มากขึ้นไปอีก
  • ถุงยางอนามัยเป็นสัญลักษณ์ของความไม่ไว้วางใจ "ไม่ไว้ใจเหรอ?" คำถามที่ทำให้อีกฝ่ายทำใจลำบากทุกครั้ง เวลาที่ยืนยันให้ใช้ถุงยาง การใช้ถุงยางอนามัยไม่ใช่เครื่องหมายของความไม่ไว้ใจ แต่นั่นคือความเอาใจใส่ซึ่งกันและกันต่างหาก
  • "ไม่กล้าไปซื้อ อายคนขายเดี๋ยวเขามองว่าเราหื่น" คุณอาจไม่เคยรู้ว่า เวลาที่คนขายมองหน้าคุณตอนซื้อ เขากำลังชื่นชมคุณอยู่ในใจต่างหากว่าคุณเป็นคนรอบคอบและมีความรับผิดชอบ.. วิธีลดอายคือซื้อไปด้วยความไม่อาย ตีหน้าเฉยๆคิดว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ชิ้นหนึ่ง แค่นั้น

ความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้ต้องมานั่งเสียใจในภายหลังเมื่อคุณเมินถุงยางอนามัยก่อนการมีเพศสัมพันธ์

  • "ก็คบกันมาตั้งนานแล้วไม่ต้องใช้ก็ได้" ถูกต้องที่คุณคบกับเขามานาน แต่เขาล่ะคบคุณคนเดียวหรือเปล่า ไม่ผิดที่คุณจะไว้ใจแฟนคุณ แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าผู้หญิงคนอื่นๆของแฟนคุณปลอดภัยแน่หรือ?
  • "หน้าตาดูสะอาดดี ไม่มีอะไรหรอก" เคยได้ยินคำว่า "รู้หน้าไม่รู้ใจ" ไหม เชื้อเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบีและซี เริม ซิฟิลิส โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกหลายโรคที่ไม่ได้แสดงอาการทางใบหน้าและร่างกาย รู้ได้อย่างเดียวก็คือผลตรวจเลือด
  • "แค่ครั้งเดียวไม่เป็นไรหรอก" มีผู้ชายหลายคนติดเชื้อเอชไอวีจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก และผู้หญิงอีกไม่น้อยตั้งท้องอย่างไม่ตั้งใจจากการมีเซ็กซ์เพียงครั้งเดียวโดยไม่ได้ป้องกัน

Back to Top