ฆ่าข่มขืนต้องรับโทษสูงสุดคือประหารชีวิต...สังคมไทยตื่นตัวรณรงค์...ฆ่าข่มขืน = ประหาร

คืนวันที่ 6 กรกฏาคม 2557 ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ลูกจ้างการรถไฟฯ ก่อเหตุข่มขืนฆ่าผู้โดยสาร “น้องแก้ม” เด็กหญิงที่อายุเพียง 13 ปี อย่างโหดเหี้ยมนั้น ไม่เพียงแต่สร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัวของผู้สูญเสียแต่ยังได้สร้างกระแสความเจ็บปวดให้กับคนในสังคมไทยอย่างกว้างขวางทุกวงการ จนเกิดคลื่นสึนามิทางอารมณ์และความรู้สึก ต่างออกมาเรียกร้องและกดดันให้โทษของการฆ่าข่มขืนมีเพียงการประหารชีวิตเท่านั้น บางคนกล่าวว่า “หากไม่เพิ่มโทษก็ขออย่าให้ลดโทษ”

จากบทความข่าวสังคมของโพสต์ทูเดย์ (อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1mEBeD4) นายกสภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ และ อดีตสว. และอดีตเลขาธิการสภาทนายความ นายวันชัย สอนศิริ ได้กล่าวถึงและแสดงความคิดเห็นของโทษคดีฆ่าข่มขืนในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจโดย นายเดชอุดม กล่าวเกี่ยวกับกรณีคดีน้องแก้มว่า ”กรณีล่าสุดที่ฤเกิดขึ้นผู้ต้องหามีโทษในคดีข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 1 กระทง ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 1 กระทง และปิดบังซ่อนเร้นศพอีก 1 กระทง แค่กระทงที่ 2 ระวางโทษหนักสุดประหารชีวิตอยู่แล้ว” ส่วน นายวันชัย กล่าวว่า “โทษของคดีข่มขืนปัจจุบัน ที่ให้จำคุกสูงสุดถึง 20 ปี ถือว่าแรงอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน หากมีการรุมโทรม ใช้กำลัง ใช้อาวุธ หรือ มีการข่มขืนเด็กและเยาวชน ส่วนในคดีล่าสุดนี้มีโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต ซึ่งไม่ว่าจะจำนนด้วยหลักฐาน หรือรับสารภาพเอง ก็ถือว่าเข้าข่ายรับโทษสูงสุดเช่นกัน เนื่องจากมีการข่มขืน และฆ่า”

หากจะพิจารณากันในอีกด้านหนึ่ง ในความตื่นตัวที่คนในสังคมไทยมี ทั้งการวิพากษ์วิจารณ์ กดดัน แสดงออก แม้แต่ผู้ชายก็ยังมาแสดงออกด้วยการยืนถือป้ายเรียกร้อง ให้ประหารชีวิตผู้ที่ข่มขืนเด็ก เป็นอีกด้านหนึ่งที่ทำให้เราเห็นได้ว่า สังคมไทยยังไม่ได้ชาชินหรือละเลยกับประเด็นปัญหาการกระทำความรุนแรง ล่วงละเมิด ข่มขืน เด็กและสตรี อีกทั้งในฐานะองค์กรสาธารณกุศลที่ให้การช่วยเหลือดูแลผู้หญิงและเด็ก แม้ว่าตลอดระยะเวลาการทำงานเรามักพยายามที่จะรณรงค์ ผลักดัน ทั้งในแนวนโยบาย ข้อกฏหมาย ต่างๆให้ ผู้เกี่ยวข้อง ผู้รับผิดชอบ ต่างตื่นตัวและออกมาเพิ่มส่งเสริมมาตราการในการดูแลสวัสดิภาพเด็กและสตรี ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ตลอดจนกระบวนการพิจารณาคดีที่ควรจะมีการเร่งให้เร็วขึ้น แต่เรานั้นก็ไม่เคยต้องการให้มีการกระตุ้นที่แสนเศร้าสะเทือนใจ ที่แลกมาด้วยความทรมาน ความเจ็บปวด ชีวิต คราบน้ำตา คราบเลือด เสียงร้องที่ไม่มีใครได้ยินของเหยื่อ และครอบครัวผู้สูญเสีย เช่น กรณี น้องแก้ม หรือเด็กอีกหลายรายก่อนหน้านี้... ขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยแด่น้องแก้มและครอบครัว... ขอให้น้องไปสู่สุคติและขอให้ครอบครัวมีกำลังและแรงใจที่จะก้าวเดินต่อไป

เรายังมีความเชื่อมั่น และศรัทธา ในความศักดิ์สิทธิ์ของ กฏหมาย ว่าจะสามารถเอาผิดกับฆาตรกรในโทษที่สูงสูด... และหวังว่าสังคมไทยจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เป็นแค่...ไฟไหม้ฟาง...และท้ายนี้ถึงแม้ฆาตรกรยังไม่ได้รับโทษอันสูงสุด เราก็ยังเชื่อว่า หลายๆคนคงได้ทำการประหารชีวิตสัตว์นรกตนนี้หลายครั้งหลายหนไปแล้ว...แม้จะเป็นเพียงในจินตนาการก็ตาม…

หากท่านต้องการแก้บทลงโทษคดีฆ่าข่มขืนเด็กและสตรีให้หนักถึงขั้นประหารชีวิต โดยไม่มีการลดโทษ ผ่อนผัน อภัยโทษทั้งสิ้น สามารถร่วม แคมเปญรณรงค์โดย เสียงร้องจากเด็กไทยและหญิงไทยขอความเป็นธรรม ได้ที่ Change.org http://goo.gl/mzdOFi

    อ้างอิงข้อมูลจาก

  • โพสต์ทูเดย์ http://www.posttoday.com/สังคม/สังคมทั่วไป/305529/มอง-โทษคดีข่มขืน-ผ่านมุมนักกม-สภาทนายความ
  • Change.org http://www.change.org/th หรือ http://goo.gl/mzdOFi
  • ภาพประกอบ จาก Change.org

    เรียบเรียง/เขียน โดย จิตรา นวลละออง ฝ่ายบริหารโครงการฯ สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ